เมนู

บอกท่าน ครั้งเกิดเป็นมนุษย์ ข้าพเจ้าได้ทำบุญใดไว้
เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้าจึงมีอานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้
และวรรณะของข้าพเจ้าจึงสว่างไสวไปทุกทิศ.

แม้ในคาถาเหล่านั้น ที่ไม่เคยกล่าวไว้ไม่มี คือกล่าวไว้แล้วทั้งนั้น.
จบอรรถกถายวปาลกวิมาน

8. ปฐมกุณฑลีวิมาน


ว่าด้วยกุณฑลีวิมานที่ 1


พระมหาโมคคัลลานเถระ

ได้ถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[72] ท่านแต่งองค์ ทรงมาลัย ทรงพัสตรา-
ภรณ์สวย ใส่ตุ้มหูอันงาม แต่งผมและหนวดเรียบร้อย
สวมอาภรณ์ประดับมือ เรืองยศ อยู่ในวิมานทิพย์ ดุจ
พระจันทร์ อนึ่ง พิณทิพย์ก็บรรเลงไพเราะ เทพอัปสร
ชั้นไตรทศจำนวน 64,000 ก็เป็นผู้ดี ล้วนชำนาญ
ศิลป์ พากันมาฟ้อนรำขับร้องทำให้บันเทิงใจ ท่าน
บรรลุเทวฤทธิ์ มีอานุภาพมาก ครั้งเกิดเป็นมนุษย์
ท่านได้ทำบุญอะไรไว้ เพราะบุญอะไร ท่านจึงมี
อานุภาพรุ่งเรืองอย่างนี้ และวรรณะของท่านจึงสว่าง
ไสวไปทุกทิศ.

เทพบุตรนั้น ถูกพระโมคคัลลานเถระถามแล้ว

ดีใจ พยากรณ์ปัญหาของกรรมที่มีผลอย่างนี้ว่า
ครั้งเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในหมู่มนุษย์ ข้าพเจ้าได้
เห็นสมณะทั้งหลายผู้มีศีล มีวิชชาและจรณะพรั่ง-
พร้อม มียศ เป็นพหูสูต บรรลุธรรมที่สิ้นตัณหา มี
จิตเลื่อมใส เมื่อบริจาคข้าวและน้ำ ได้ถวายทาน
อย่างไพบูล โดยความเคารพ เพราะบุญนั้น ข้าพเจ้า
จึงมีวรรณะเช่นนี้ ฯ ล ฯ และวรรณะของข้าพเจ้าจึง
สว่างไสวไปทุกทิศ.

จบปฐมกุณฑลีวิมาน

อรรถกถาปฐมกุณฑลีวิมาน


ปฐมกุณฑลีวิมาน มีคาถาว่า อลงฺกโต มาลฺยธโร สุวตฺโถ
เป็นต้น. ปฐมกุณฑลีวิมานนั้นเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันวิหาร กรุงสาวัตถี.
สมัยนั้น ท่านพระอัครสาวกทั้งสองพร้อมด้วยบริวาร เที่ยวจาริกไปใน
แคว้นกาสี เวลาพระอาทิตย์ตก ก็ถึงวิหารแห่งหนึ่ง. อุบาสกผู้หนึ่งใน
โคจรคาม [ หมู่บ้านที่พระเที่ยวบิณฑบาต ] ของวิหารนั้นได้ยินเรื่องนั้น
แล้ว ก็ไปหาพระเถระไหว้แล้ว น้อมน้ำล้างเท้า น้ำมันทาเท้า เตียงตั่ง
เครื่องปูลาด และเครื่องประทีป นิมนต์ฉันวันพรุ่งนี้ รุ่งขึ้นก็ถวาย
มหาทาน พระเถระทำอนุโมทนาแก่อุบาสกนั้นแล้วก็จาริกต่อไป ต่อมา